เดือดร้อนกันถ้วนหน้า หลังจังหวัดระนอง ตรวจพบแรงงานต่างด้าวติดโควิดคลัสเตอร์ใหม่ (เมื่อวานนี้) ในโรงงานแปรรูปอาหารทะเลกว่า 90 คน ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือได้อย่างเร่งด่วน โดยได้นำชุดPPE และหน้ากาก N95 ที่จำเป็นสำหรับการดูแลผู้ป่วยโควิด19 ในเบื้องต้น ไปมอบให้กับ ทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เพื่อนำไปใช้ในการตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มชาวประมงเพิ่มเติม
ทั้งนี้ คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ได้มอบหมายให้ คุณนฤพล อาจหาญ ผู้สื่อข่าวอาวุโสช่อง8 เป็นตัวแทนสายธารน้ำใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้ร่วมกันบริจาค ผ่านโครงการ “ช่อง 8 รวมใจสู้ภัยโควิด-19” มอบ ชุด PPE / และหน้ากากอนามัย ให้กับทีมแพทย์ในจังหวัดระนอง โดยมี นายแพทย์ นรเทพ อัศวพัชระ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เป็นผู้รับมอบ ซึ่งจะนำไปช่วยเหลือและสนับสนุนสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มาพักฟื้นและสังเกตุอาการ ที่โรงพยาบาลสนามต่างๆในจังหวัดระนอง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง ระบุว่า ชุดPPE และ หน้ากากอนามัย N95 ที่ทางช่อง8 นำมาส่งมอบให้นั่น มีความจำเป็นอย่างมากหลังเมื่อวานนี้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในจังหวัดระนองเพิ่มสูงขึ้น จากคลัสเตอร์ใหม่ ที่เป็นแรงงานต่างด้าวในโรงงานแปรรูปอาหารทะเลกว่า 90 คน สิ่งของที่ทางช่องแปดมอบให้จึงจะถูกนำไปใช้อย่างทันท่วงที ในการช่วยเหลือชาวระนองให้ปลอดภัยจากเชื้อ โควิด-19
นอกจากนั้น ทีมข่าวช่อง8 ยังได้ส่งมอบชุดPPE และหน้ากากอนามัย N95 อีกจำนวนหนึ่งให้กับโรงพยาบาลจังหวัดระนอง ที่ตอนนี้ยังคงมีผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลกว่า 30 คน และเรื่องฉีดวัคซีนให้กับชาวระนองเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่หลังพบจังหวัดระนองเป็นพื้นที่กลุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดเชื้อ โควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อในจังหวัดระนองแล้วมากกว่า 1000 คนและมากกว่า 800 คนส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระนอง ยังบอกอีกว่า มีความกังวลใจถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ถือเป็นผู้ป่วยกลุ่มหลักที่มีการติดเชื้อในจังหวัดระนอง ว่าถ้าหากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 อาจจะทำให้จังหวัดระนองยังคงเป็นพื้นที่ระบาด ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือเพื่อฉีดวัคซีนให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีความจำเป็นในพื้นที่จังหวัดระนอง แต่เบื้องต้นจะใช้ชุดพีพีอี และหน้ากากอนามัย N95 ที่ทางช่อง8 นำมามอบให้ นำไปใช้ในการตรวจเชิงรุกกับแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ต่างๆก่อนโดยเฉพาะกลุ่มชาวประมงที่มีความเสี่ยงสูง