มิสและมิสเตอร์ ซูปราเนชันแนล ไทยแลนด์ 2021 ร่วมเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ด้านต่างๆ ของ รพ.สนาม สีแดง (ICU) ในโครงการลมหายใจเดียวกันของกลุ่ม ปตท. ร่วมกับ รพ. ปิยะเวท

นายแพทย์ วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ, นพ.ประวิทย์ เปรมธีรสมบูรณ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ผอ.ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ และ จินตนา สนธิ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลปิยะเวท ให้การต้อนรับกองประกวด มิสและมิสเตอร์ ซูปราเนชันแนล ไทยแลนด์ 2021 นำโดย วสวัตติ์ วัฒนาศิริสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พอสสิเบิลดรีม 789 จำกัด, ควีน-เบญจรัตน์ อัครวณิชศิลป์ เอบิ มิสซูปราเนชันแนล ไทยแลนด์ 2021 และ ต้นกล้า-นิปุณ แก้วเรือน มิสเตอร์ซูปราเนชันแนล ไทยแลนด์ 2021 เยี่ยมชมโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการวิกฤต (ICU) โครงการลมหายใจเดียวกันของกลุ่ม ปตท. เพื่อให้ ควีน และ ต้นกล้า ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ด้านความช่วยเหลือด้านต่างๆ ของโครงการอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน ณ โรงพยาบาล ปิยะเวท เมื่อวันก่อน

วสวัตติ์ วัฒนาศิริสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พอสสิเบิลดรีม 789 จำกัด กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจของเวทีการประกวด Miss & Mister Supranational Thailand คือ การสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นด้านการเผยแพร่ความดีงาม เป็นไอดอลของการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ทำกิจกรรมเพื่อสังคมในด้านต่างๆ สามารถเชิญชวนให้เยาวชนรุ่นใหม่กล้าที่จะทำความดีตอบแทนสังคม ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ด้วยเหตุนี้ ทางกองประกวดเล็งเห็นว่าทั้ง ควีนและต้นกล้า มีผู้ติดตามในโซเชียลเป็นจำนวนมากสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” โดยทั้งคู่พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมให้มีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เสริมสร้างพลังบวกและพร้อมที่จะเป็นตัวอย่างให้กับเด็กรุ่นต่อไปในการที่เขาจะเติบโตได้อย่างมีต้นแบบ

ทางด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงพยาบาลปิยะเวท ICU (รพ.สนามสีแดง) ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน จัดสร้างบนพื้นที่ 4 ไร่ บริเวณพื้นที่ด้านหน้าของโรงพยาบาลปิยะเวท รองรับผู้ป่วยจำนวน 120 เตียง โดยจัดให้มีเครื่องช่วยหายใจ ระบบออกซิเจนส่งตรงถึงทุกเตียง อีกทั้งยังมีพื้นที่รองรับผู้ป่วยโควิดที่ต้องฟอกไตโดยเฉพาะจำนวน 24 เตียง พร้อมด้วยนวัตกรรม “Hybrid Treatment for PM2.5 and Airborne Pathogens” เพื่อฟอกและกำจัดเชื้อโรคในอากาศบริเวณโดยรอบ ทำให้อากาศบริเวณด้านนอกของโรงพยาบาลสนามสะอาดและปราศจากเชื้อโรคภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลปิยะเวท ตลอด 24 ชั่วโมง

นพ.วิทิต กล่าวเสริมว่า “โรงพยาบาลปิยะเวท และมูลนิธิในเครือบางปะกอกและปิยะเวท มีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ และมีศักยภาพของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางครบถ้วน จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อโควิด-19 พร้อมมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เข้ามารักษาทางโรงพยาบาลก็สามารถวินิจฉัยและรักษาโรคควบคู่กันไปได้ในทันที โดยทั้งหมดนี้จะได้รับความร่วมมือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา เข้าร่วมรักษาคนไข้ให้หายป่วยอย่างไม่ต้องกังวลใจ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากการมีโรคประจำตัว”