“เปอร์สเปกทิฟ” บุก 1 ใน10 สวนสวยที่สุดในโลก จากฝีมือคนไทย “กำพล ตันสัจจา”

รายการ เปอร์สเปกทิฟ”  สัปดาห์นี้พาไปเที่ยวชมพร้อมเรื่องราวแนวคิด เติมความสำเร็จให้ชีวิตจากความไม่รู้เรื่องเกษตร แต่สามารถขยับขยายมาเป็น สวนนงนุช พัทยา” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น  1 ใน 10 สวนสวยที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย   โดยจะพาไปพูดคุยกับ คุณโต้ง-กัมพล  ตันสัจจา” ประธานสวนนงนุชพัทยา ซึ่งเป็นบุคคลผู้ที่เนรมิตสวนไม้ดอกไม้ประดับ ให้เป็นเหมือนดังสวรรค์บนดิน และมีฝีมือการจัดสวนที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยมีเครื่องการันตีคือ รางวัลเหรียญทอง จากการประกวด จัดสวนระดับโลก ถึง 6 ปีซ้อน จากงานสวนโลกเชลซีฟลาวเวอร์  แต่กว่าจะเป็นสวนสวย จนได้รับการยอมรับ จากทั่วโลกนั้น เจ้าของสวนไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการเกษตร ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการออกแบบ แต่เขามีวิธีผลักดันตัวเอง จนกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์ที่มีผลงานระดับโลกได้อย่างไร ห้ามพลาด และที่พิเศษสุด ๆ  งานนี้ เปอร์ สุวิกรม” พาชมหนึ่งในไฮไลท์สำคัญ รวมไปถึงสวนลอยฟ้าแห่งแรกของโลก  สนุกสนาน น่าสนใจ และตื่นตาตื่นใจขนาดไหน ต้องติดตามในรายการ เปอร์สเปกทิฟ” คืนวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2564  เวลา 22.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD และFacebook Premiere #PerspectiveTV

โดย  คุณโต้ง-กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา  เปิดเผยว่า เดิมทีที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์ แต่คุณแม่อยากได้สวนสวยบ้าง ท่านก็มาปรึกษาผม ผมก็บอกว่าไม่เห็นด้วยนะ ว่ามันไม่ใช่อาชีพของเรา มันต้องเป็นองค์กรหรือหน่วยงานที่มีเงินเยอะ ๆ สร้างเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ คุณแม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร เราทำได้  ท่านก็ทำของท่าน และผมก็ไม่ยุ่งด้วยเลยห้าปี  หลังจากนั้นคุณแม่ทำแล้วก็เหนื่อย เลยบอกให้หนึ่งในพี่น้องทั้งสามคนต้องมาที่นี่ ท่านก็เลือกผมมาทำ  เริ่มตั้งแต่ติดลบและค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ยี่สิบปีแรกของสวนนงนุช   เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่เราก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป  เราไม่ได้เป็นองค์กรที่มีเงินมหาศาลตั้งแต่ต้น เราค่อยเป็นค่อยไป ทำทีละนิด ทำเรื่อย ๆ ที่นี่ก็สี่สิบปีแล้ว แรก ๆ ก็อาจจะมีผู้รับเหมามาทำให้เรา จนเราเรียนรู้ว่าวิธีไหนดีที่สุด และสุดท้ายเลยคือทำเองดีที่สุด เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผมมองการบริหารเหมือนพ่อค้า ไม่รู้เรื่องต้นไม้เลย ใช้เวลานานมากกว่าจะเข้าใจเรื่องต้นไม้ เข้าใจเรื่องสวน แต่ผมได้เปรียบคนอื่น เพราะผมผ่านวงการภาพยนตร์มา จะได้เปรียบตรงที่ว่าเรามองในมุมชาวบ้านตลอดเวลา ผมเอาหนังมาฉาย ผมก็เกร็งกำไรว่า หนังอะไรที่ชาวบ้านอยากดู ผมก็เอามาขาย พอมาทำสวนนงนุช ผมก็มีนิสัยตรงนั้นติดมาด้วย คือเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้ผมมาจากคนต่างชาติ ที่เหลือคือคนไทย แต่ผมลืมไปว่าหน้าที่ผมต้องให้คนไทยหันมารักธรรมชาติ รักสัตว์ ผมก็เลยมีโครงการให้เที่ยวฟรีมาเป็นปี พอผมพูดถึงสวนนงนุช คนที่ไป เพื่อนผมก็บอกว่า ไปมาแล้ว บอกต่อ ๆ กัน ต้องไปนะ อยากให้เด็ก  ๆ ได้มาที่นี่ มาเรียนรู้เรื่องต้นไม้ เรื่องสัตว์ มาที่นี่แล้วมีความสุขออกไป เพราะที่นี่ สวนนงนุช” เป็นหนึ่งในสิบสวนที่สวยที่สุดในโลก อยากให้มาชม และผมอยากให้คนไทยภูมิใจในสิ่งที่เรามี หลังจากวิกฤติโควิด 19 ก็หวังว่าจะชวนคนไทยมาเที่ยวไทย