องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดงานขอบคุณพันธมิตรภารกิจเพื่อเด็ก เพื่อขอบคุณพันธมิตรภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงเหล่าคนบันเทิงที่จะให้การสนับสนุนรายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 3 (The Blue Carpet Show for UNICEF) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2564 ณ บ้านสุริยาศัย เมื่อวันก่อน
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยมี อานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และ เซเวอรีน เลโอนาร์ดี รักษาการผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ให้การต้อนรับผู้สนับสนุน พร้อมแสดงความขอบคุณและมอบโล่และเกียรติบัตร Star for Children Award ให้กับตัวแทนคนบันเทิง อย่าง ตุ๊ยตุ่ย – พุทธชาติ พงศ์สุชาติ และพันธมิตรภาคธุรกิจ ได้แก่ ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ตัวแทนจากบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และ วีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการ Enterprise Brand Management Office บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของยูนิเซฟในการช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกด้วยดีเสมอมา
ตุ๊ยตุ่ย – พุทธชาติ เผยความรู้สึกว่า “อาเกิดและเติบโตในถิ่นฐานที่ห่างไกล อยู่ห่างจากโอกาสที่จะสนับสนุน ให้เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ แต่โชคดีที่ได้รับความเกื้อกูลเมตตาจากท่านผู้มีพระคุณตลอดเส้นทางชีวิต เรา เคยสงสัยว่าทำไมเวลาเราอยากจะแบ่งปันและทำความดีช่วยเหลือใครสักคน จึงต้องทำกับองค์กรใหญ่ ๆ จนอาได้มีโอกาสมาทำงานกับยูนิเซฟ เลยได้รู้ว่า 70 ปีมาแล้วนะ ที่ยูนิเซฟได้เข้ามาช่วยเหลือ แก้วิกฤต ให้กับเด็ก ๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ทารกหลายล้านคนในสมัยก่อนได้เข้าถึงวัคซีนเพื่อป้องกันโรคที่เป็นอันตราย หรือในอดีตเด็กไทยขาดไอโอดีนกันเยอะ ทำให้สมองพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ยูนิเซฟก็ผลักดันให้เกิดกฎหมายที่ทำให้ผู้ผลิตเกลือต้องใส่ไอโอดีนลงไปด้วย หรือเรื่องการศึกษาของเด็กในป่าบนดอย เขาก็จัดหาคุณครูไปประจำการ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนหนังสือ อ่านออกและเขียนได้และมีอนาคตที่ดี”
ตุ๊ยตุ่ย กล่าวเพิ่มเติมว่า “อาเคยไปลงพื้นที่ที่อินเดียกับทีมยูนิเซฟ ไปถ่ายหนังสั้นเพื่อถ่ายทอดวิกฤตในการรอดชีวิตของทารกเกิดใหม่ การเดินทางและการใช้ชีวิตที่นั่นค่อนข้างลำบากมาก เดินทางไกล สาธารณสุขเข้าไม่ถึง เขาไม่มีน้ำสะอาดพอในการทำคลอดและทำความสะอาดเด็กหลังคลอด อัตราการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิดที่นั่นสูงจนน่าตกใจ หลายครั้งที่อาต้องหลบออกจากกล้องเพื่อมาเช็ดน้ำตา แต่ก็ต้องรีบกลับไปเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกันกับคนที่อยู่ตรงหน้า บรรยากาศตรงนั้นหดหู่มากจริง ๆ แต่ทุกครั้งที่อาหันไปรอบตัว จะเห็นชาวยูนิเซฟทำงานกันอย่างแข็งขัน มีสติ อานับถือน้ำใจทุกคนมากๆ ทำให้อาเข้าใจถ่องแท้เลยว่า ภารกิจของพวกเขาที่ทำเพื่อเด็กๆ นั้นเขาทำกันขนาดไหนปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ที่อาได้มาร่วมงานกับยูนิเซฟและรายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ต้องขอบคุณมาก ๆ ที่นึกถึงและชักชวนให้อาได้มามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเด็ก ๆ ขอบคุณที่ลงมือทำ เพราะชีวิตน้อย ๆ จำเป็นต้องมีผู้ใหญ่คอยปกป้องดูแล และแสวงหาสิ่งที่ดีให้กับเขา อาเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่อย่างเรารวมใจกัน คนละไม้คนละมือ พวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้แน่นอนค่ะ”