สสว. ร่วมกับ สถาบันฯ สิ่งทอ จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ ประจำปี 2564 กิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (SME – Early Stage : All Stars) เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และยกระดับศักยภาพของเอสเอ็มอีพื้นที่ 10 จังหวัดในภาคเหนือ ในกลุ่มเสื้อผ้า สิ่งทอ แฟชั่น เครื่องประดับ กระเป๋าและเครื่องหนัง ตลอดจนเครื่องใช้ไลฟ์สไตล์ พร้อมจัดแสดงนิทรรศการและส่งเสริมการออกตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อ “ไทยช้อป SMEs ไทย 2021” BCG Connext เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในระหว่างวันที่ 20 – 26 สิงหาคม 2564
ณ โซนแกรนด์ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงราย และผ่านช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/smeconnextonlinemarket/ และ https://www.facebook.com/thtismestartup โดยงานนี้ คาดว่าจะสร้างได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นวงกว้าง รัฐบาลต้องเร่งปรับตัวโดยเพิ่มมาตรการในการแก้ไขปัญหาระยะยาว
ผอ.สสว. เผยอีกว่า ด้วยเหตุนี้ สสว. จึงร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ ประจำปี 2564 กิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (SME – Early Stage : All Stars) เพื่อเร่งสนับสนุน ส่งเสริม ยกระดับความรู้ความสามารถ และเพิ่มทักษะในการประกอบธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น เครื่องประดับ กระเป๋าและเครื่องหนัง ตลอดจนเครื่องใช้ไลฟ์สไตล์ ในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก และแพร่ โดยปรับบริบทเพื่อเพิ่มทิศทางการพัฒนาศักยภาพ ตลอดจนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์และรองรับวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอล และนำองค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เข้ามาสนับสนุน โดยให้คำปรึกษาทั้งในด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาสินค้า การเขียนแผนธุรกิจในเชิงลึก การวางแผนการตลาด พร้อมหาช่องทางการตลาด เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ออกสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินกลับไปสู่ระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ควรเป็น หรือยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ ของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า
นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า สถาบันฯ สิ่งทอ ได้ร่วมมือกับ สสว. อีกครั้งในการดำเนินโครงการ SME – Early Stage : All Stars เพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการในการพัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจเชิงลึก เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยให้ก้าวหน้า
ผอ.สถาบันฯ สิ่งทอ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สถาบันฯ พิจารณา ว่า จะเข้ามามีบทบาทและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้มีการเติบโต ทำให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจในขนาดกลางและขนาดย่อม ประชาชนได้ออกมาจับจ่ายใช้สอยสินค้ามีคุณภาพ และส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพื่อการต่อยอดสินค้า โดยในปีนี้ประกอบไปด้วย 3 เศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy) มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการนำวัสดุต่าง ๆ นำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดความคุ้มค่า และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เน้นการแก้ไขปัญหามลพิษ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า BCG ซึ่งเป็นโมเดล ทางเศรษฐศาสตร์ที่จะช่วยในการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างมั่นคง
“นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการและส่งเสริมการออกตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการกว่า 75 บูธ ในวิถีนิวนอร์มอล ภายใต้ชื่องาน “ไทยช้อป SMEs ไทย 2021” BCG Connext โดยเป็นสินค้า เสื้อผ้า สิ่งทอ แฟชั่น เครื่องประดับ กระเป๋าและเครื่องหนัง ตลอดจนเครื่องใช้ไลฟ์สไตล์ จากผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ภาคเหนือ 10 จังหวัดที่ผ่านการคัดเลือกภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ ประจำปี 2564 กิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (SME – Early Stage : All Stars) ซึ่งจะสลับเปลี่ยนกันมาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีนวัตกรรมและมีคุณภาพดีพร้อมจัดเต็มด้วยโปรโมชั่นสินค้าและผลิตภัณฑ์ในราคาสุดพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในระหว่างวันที่ 20 – 26 สิงหาคม 2564 เวลา 11.00 – 20.00 น. ณ โซน แกรนด์ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงรายและเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้สนใจที่ไม่สะดวกมาร่วมงาน จะมีการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือLive Shopping ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/smeconnextonlinemarket/ และ https://www.facebook.com/thtismestartup โดยมีดารานักแสดงชื่อดังของเมืองไทย อาทิ เพื่อน-คณิน ชอบประดิถ และ ซีน-ภัสธราภรณ์ บุษราคัมวดี มาช่วยสร้างสีสันและกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้า ในระหว่างวันที่ 22 – 25 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 – 17.00 น. โดยคาดว่า งานนี้จะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท